วันศุกร์ที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2556



ข้อคิดดีๆในการใช้ชีวิต อ่านแล้วมีความสุข และเตือนสติตัวเอง

 

ฉันได้เรียนรู้ว่า... ยากล่อมประสาทที่ดีที่สุด คือ สติสัมปชัญญะนั่นเอง

ฉันได้เรียนรู้ว่า... การฟังเพลงเบาๆ ในยามโศกเศร้านั้น ช่วยบรรเทาความทุกข์ในใจให้เบาบางลงไปได้อย่างมากมาย

ฉันได้เรียนรู้ว่า... คุณหาเงินได้มากขึ้น แต่ไม่สามารถหาเวลาเพิ่มได้

ฉันได้เรียนรู้ว่า... หากเราละเลยความผูกพันกับพ่อแม่แล้วไซร้ เราจะหวนไห้คิดถึงท่านเจียนตายยามเมื่อท่านจากไป

ฉันได้เรียนรู้ว่า... อย่ากอดรัดลูกให้แน่นเกินไป มันอาจจะกลายเป็นการทำร้ายลูกทางอ้อม

ฉันได้เรียนรู้ว่า... ผู้หญิงทุกคนอยากได้รับดอกไม้กันทั้งนั้น โดยเฉพาะเวลาที่ไม่ใช่โอกาสพิเศษ

ฉันได้เรียนรู้ว่า... การได้รักและถูกรัก เป็นความรื่นรมย์อันยิ่งใหญ่ทีสุดในโลก

ฉันได้เรียนรู้ว่า... คุณอาจรักใครบางคน ทั้งที่ไม่ได้ชอบเขามากมายก็ได้

ฉันได้เรียนรู้ว่า... ยังมีสิ่งหนึ่งที่เจ็บปวดไปมากกว่าความเกลียดชัง นั่นคือ ความเมินเฉย

ฉันได้เรียนรู้ว่า... แม้ฉันจะต้องเจ็บปวด แต่ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องอยู่อย่างเจ็บปวดเสมอไป

ฉันได้เรียนรู้ว่า... ความเอื้ออาทรนั้น เพียบพร้อมสำคัญกว่าความบริบูรณ์เสียอีก

ฉันได้เรียนรู้ว่า... การลืมสิ่งที่ผิดพลาดไปแล้วนั้น สำคัญพอกับการจดจำสิ่งที่ดีงามเอาไว้

ฉันได้เรียนรู้ว่า... การคาดเดานั้น มักจะเลิศหรูกว่าสิ่งที่เกิดขึ้นจริงเสมอ

ฉันได้เรียนรู้ว่า... ฉันไม่อาจคาดหวังผู้อื่นให้แก้ปัญหาของฉันได้
ฉันได้เรียนรู้ว่า... เมื่อสิ่งเลวร้ายผ่านเข้ามา คุณจะปล่อยให้มันสร้างความขมขื่นใจให้คุณ หรือใช้มันเป็นพลังทำให้คุณเข้มแข็งขึ้นได้

ฉันได้เรียนรู้ว่า... ถึงเราจะเปลี่ยนแปลงอดีตไม่ได้ แต่เราปล่อยให้มันผ่านไปได้

ฉันได้เรียนรู้ว่า... หากต้องการคำตอบที่ดี ก็ควรถามคำถามที่ดีด้วย

ฉันได้เรียนรู้ว่า... ระดับความมั่นใจในตัวเองของคนๆ หนึ่ง จะเป็นตัวบอกของระดับความสำเร็จของเขาด้วย

ฉันได้เรียนรู้ว่า... อาจจะมีใครที่รักคุณอย่างจริงจังอยู่ก็ได้ เพียงแต่ไม่รู้ว่าจะแสดงออกให้คุณรู้ได้อย่างไร

ฉันได้เรียนรู้ว่า... ในที่สุดแล้ว ผู้รับจะเป็นผู้แพ้ และผู้ให้นั่นแหละคือผู้ชนะ

ฉันได้เรียนรู้ว่า... การเรียนรู้ที่จะให้อภัยนั้น ต้องการการฝึกฝน

ฉันได้เรียนรู้ว่า... คนไม่อาจเป็นวีรบุรุษได้ โดยไม่รู้จักลงมือทำ

ฉันได้เรียนรู้ว่า... เคล็ดลับของการเติบโตอย่างสง่าผ่าเผย คือ อย่าหมดความกระตือรือล้นที่จะพบหาผู้คนและสถานที่ใหม่ๆ

ฉันได้เรียนรู้ว่า... การซื่อสัตย์ต่อสิ่งเล็กน้อย ไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยเลย

ฉันได้เรียนรู้ว่า... สิ่งดีๆ นั้น มักเกิดขึ้นกับคนดีเสมอ

ฉันได้เรียนรู้ว่า... การจากเพื่อนที่ใกล้ชิดที่สุดนั้น เป็นเรื่องยากกว่าที่ฉันเคยคิดเอาไว้มาก

ฉันได้เรียนรู้ว่า... การเยียวยารักษามิตรภาพที่บอบช้ำนั้น ทำเมื่อไรก็ไม่สาย

ฉันได้เรียนรู้ว่า... การที่จะรู้ค่าอะไรสักอย่างนั้น คุณจะต้องขาดมันไปสักพักก่อน


ทำไม เรามี 1ปาก  2 หู เพราะว่าเราต้องรับฟังให้มากๆ แล้วต้องพูดให้น้อยๆ

แนะนำซี่รี่ที่ดูแล้ว ร้องไห้!!


 แนะนำ ซีรี่ที่ดูแล้วน้ำตาพรากค่ะ แบบว่าไม่เรียงที่สุดนะคะ




1.  I'm sam
เรื่องย่อ          I Am Sam เป็นเรื่องราวอันน่าประทับใจของ แซม ดอว์สัน (ฌอน เพนน์) พ่อผู้ซึ่งมีปัญหาทางสมอง ของเด็กหญิงที่ชื่อ ลูซี่ (ดาโคต้า แฟนนิ่ง) เขาเลี้ยงดูเธอ จากความช่วยเหลือของกลุ่มเพื่อนที่ไม่ธรรมดาของเขา และเมื่อลูซี่มีอายุได้เจ็ดขวบ ซึ่งพัฒนาการทางปัญญาของเธอ กำลังก้าวล้ำหน้าผู้เป็นบิดา ความสัมพันธ์ของทั้งสองก็ถูกคุกคาม จากการเข้ามาแทรกของนักสังคมสงเคราะห์ ที่ต้องการดูแลลูซี่แทนแซม


**** แนะนำ เรื่องนี้นะคะ ดู แล้วรับรองน้ำตาแตก  อิ่มเอิบใจเลยทีเดียว  แล้วลุ้นไปด้วยกับนายแซม สุภาพบุรุษปัญญานิ่ม




 2.บันทึกน้ำตา 1 ลิตร



 สำหรับเรื่อง นี้นะคะ ขอแนะนำ เลย ค่ะ ไม่ดูแล้วจะเสียใจมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เพราะตัวละครและเนื้อเรื่องสอนให้เราได้อะไรหลายๆอย่าง   ขอเพียงคุณเปิดใจอ่านข้างล่างนี้สัก 5 นาทีเถอะ ใช้สติอ่านมันสักนิด..ก่อนที่คุณจะลงมือทำ มัน 

 คำคมในเรื่อง

ตอนที่ 1 เริ่มต้นสู่วัยรุ่น
ชีวิตของฉันก็เปรียบเหมือนดอกไม้ที่ยังตูมอยู่ ช่วงเริ่มต้นวัยรุ่นของฉัน อยากใช้ชีวิตอย่างที่ไม่ต้องมานั่งเสียใจภายหลัง

ตอนที่ 2 อายุ 15 ปี โรคปิศาจที่แฝงมา
แม่คะ ในใจของหนูมีคุณแม่ที่คอยเชื่อในตัวหนูอยู่ตลอด หลังจากนี้ก็ขอฝากตัวด้วยนะคะ ขอโทษที่ทำให้ลำบากอยู่เสมอ

ตอนที่ 3 โรคนี้ทำไมถึงเลือกฉันนะ
โรคนี้ทำไมถึงเลือกฉันนะ ถึงจะบอกว่าก็เพราะโชคชะตา แต่ก็ยังทำใจให้ยอมรับไม่ได้

ตอนที่ 4 ความโดดเดี่ยวของสองคน
ฉันอยากสร้างเครื่องย้อนเวลาและกลับไปในอดีต ถ้าไม่ได้เป็นโรคนี้ก็คงจะมีความรักได้ อยากจะคุกเข่าขอร้องให้ใครสักคนมาช่วย ฉันจะทนต่อไม่ไหวแล้ว

ตอนที่ 5 หนังสือประจำตัวคนพิการ
จะไม่พูดว่าอยากกลับไปวันนั้นอีกแล้ว จะยอมรับตัวเองตอนนี้และมีชีวิตอยู่ต่อไป

ตอนที่ 6 สายตาที่เย็นชา
บาง ครั้งรู้สึกเหมือนถูกสายตาที่เย็นชาทำร้าย แต่ก็ได้รู้ว่ายังมีสายตาที่อ่อนโยนอยู่ด้วยเหมือนกัน เพราะฉะนั้น ฉันจะไม่หนีเด็ดขาด ถ้าเป็นอย่างนั้น สักวันหนึ่งก็คง…”

ตอนที่ 7 ที่อยู่ของฉัน
ถึงแม้ว่าจะเป็นอย่างนั้น แต่ฉันก็ยังอยากอยู่ที่นี่ เพราะนี่คือที่ที่ฉันอยู่

ตอนที่ 8 1 litre of tears
ถึง จะล้มกี่ครั้งก็ไม่เป็นไร เดี๋ยวก็ลุกขึ้นใหม่ได้ ถ้าล้มแล้วมองไปบนท้องฟ้าที่สดใส ฟ้าก็ยังคงกว้างอย่างหาที่สุดมิได้เหมือนเดิม และยังคงยิ้มให้กับเราเสมอฉันยังมีชีวิตอยู่

ตอนที่ 9 ชีวิตในตอนนี้
คงไม่ใช้ใช้ชีวิตในอดีต แต่ต้องใช้ชีวิตในตอนนี้เท่าที่จะทำได้ก็พอ

ตอนที่ 10 Love Letter
ความเป็นจริงช่างโหดร้ายเหลือเกิน แม้แต่จะฝันก็ยังทำไม่ได้ และเมื่อคิดถึงอนาคต น้ำตาก็จะไหลออกมาอีก

ตอนสุดท้าย ไปแสนไกล สู่ที่น้ำตาเลือนหาย
มีชีวิตอยู่ต่อไปนะ




3.Autumn in My Heart

เป็นอีกเรื่องหนึ่งในหลายๆเรื่องที่เราชอบมากๆๆๆ เป็นละครเกาหลีเรื่องแรกที่ทำให้เราติดละคร­เกาหลี กลับมาดูกี่ครั้งๆๆ ก็ยังรู้สึกเศร้า  ติดตามเรื่องนี้ให้ได้นะ ^___^


4.I'm sorry I love you 

เนื้อเรื่องย่อ (Synopsis) :

"รักก็เหมือนกับเกมส์ คุณไม่มีทางรู้หรอกว่าจะต้องเจอกับอะไร?"
นี่คือเรื่องราวความรักที่แสนเศร้า
"I'm Sorry, I Love You" เล่าเรื่องราวของชายหนุ่มที่ชื่อ Cha Moo-Hyuk (So Ji-Sub)
เศร้าๆๆๆ.......T__T